สหรัฐอเมริกา (US) เผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อตาม รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเคลื่อนไหวของตลาดในวันศุกร์ (20 ธันวาคม 2567)
รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE เพิ่มขึ้น 2.4% ปีต่อปี (YoY) ในเดือนพฤศจิกายน ต่ำกว่าที่ Trading Central คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% YoY แต่ยังคงสูงกว่าตัวเลขของเดือนก่อนหน้าที่ 2.3% YoY
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้นมาที่ 2.8% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% YoY ถึงแม้ว่าจะยังคงเท่ากับอัตราการเติบโตในเดือนตุลาคมซึ่งอยู่ที่ 2.8% YoY ก็ตาม
ตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ PCE ทำหน้าที่เป็นข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญสำหรับธนาคารกลางสหรัฐในการกำหนดนโยบายการเงิน ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลนี้มีผลกระทบต่อตลาดการเงินเป็นพิเศษ
หลังจากการประกาศ PCE ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ $2,609 ต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในแต่ละวัน ในทางกลับกัน ดอลลาร์สหรัฐเผชิญกับแรงกดดัน โดย EURUSD พุ่งแตะระดับประมาณ 1.04191 และ GBPUSD พุ่งแตะระดับ 1.25542 ในทางกลับกัน USDJPY ร่วงแตะระดับ 156.338 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ซึ่งร่วงลงก่อนหน้านี้ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่เกือบ 21,000
การเติบโตที่หยุดชะงักของดัชนี PCE พื้นฐานทำให้เกิดความหวังในการลดลงในอนาคต และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการที่ก้าวร้าวมากขึ้นเล็กน้อยในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ตามที่ระบุไว้ในประกาศนโยบายการเงินเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตาม หากการเติบโตของ PCE พื้นฐานยังคงชะลอตัวลง ธนาคารกลางสหรัฐอาจมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังมากขึ้น