
สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ (ดัชนีราคาผู้บริโภค/CPI) ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน ดังที่เห็นในช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี (10 เมษายน 2568)
สำหรับเดือนมีนาคม ดัชนี CPI รายงานว่าเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่ Trading Central คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมราคาอาหารและเครื่องดื่ม เติบโต 2.8% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3%
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ที่แนะนำ
ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 เมษายน มีจำนวน 223,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 226,000 ราย แต่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 219,000 ราย
หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับประมาณ $3,133 ต่อทรอยออนซ์ ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดย EURUSD พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.11310 ขณะที่ GBPUSD พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.29566 เช่นกัน ในทางกลับกัน USDJPY ร่วงลงแตะระดับ 144.867
นอกเหนือจากการเปิดเผยข้อมูลแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อสงครามการค้ายังคงส่งผลต่อพลวัตของตลาดการเงิน ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เลื่อนนโยบายภาษีศุลกากรแบบตอบแทนออกไป 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าสำหรับประเทศต่างๆ ที่เคยถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงลดลงเหลือเพียง 10% เท่านั้น
แม้ว่าการที่ทรัมป์เลื่อนการดำเนินนโยบายตอบแทนจะมีผลกับประเทศที่ถือว่า “เคารพ” นโยบายของสหรัฐฯ แต่ภาษีนำเข้าจากจีนก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,25% จากเดิม 1,04% การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 84% สถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวนมากขึ้น